โลมาสีชมพู หาดขนอม ทะเลใต้ โลมาสีชมพู (Suasa chinensis) มีชื่อเรียกอีกชื่อในหมู่นักวิชาการว่า โลมาขาวเทา และมีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษหลายชื่อ เช่น Indo-Pacific hump-backed dolphins, Chinese white dolphins, Giant pandas of the sea มีชื่อท้องถิ่นเรียกว่า โลมาหลังโหนก มักพบอาศัยในเขตน้ำตื้นของทะเลชายฝั่งทั้งในเขต Tropical และ Subtropical โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีการกระจายกว้างมาก ตั้งแต่ฝั่งของจีนและพม่าไปจนถึงชายฝั่งออสเตรเลีย
โลมาเราก็จะคุ้นกับโลมาพันธุ์ต่างๆ ที่มีตัวเป็นสีเทาเข้มๆ กันเสียส่วนใหญ่ แต่ถ้าพูดถึงโลมาที่มีตัวเป็นสีชมพูแล้วละก็ เชื่อว่าหลายคนน่าจะไม่รู้จักหรือเคยเห็นอย่างแน่นอน
โลมาสีชมพูหรือชื่อจริงๆ ว่าโลมาหลังโหนก เป็นโลมาสายพันธุ์หนึ่งที่หายากมากและอยู่ในช่วงที่ใกล้สูญ์พันธุ์เต็มที พวกมันจะอาศัยอยู่แต่ในน้ำทะเลเท่านั้น
(บางครั้งทีการสับสนกับโลมาสีชมพูแห่งแม่น้ำอะเมซอน รวมถึงโลมาแห่งแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นสายพันธุ์ของโลมาน้ำจืด)
โลมาสายพันธุ์ดังกล่าวจะมีลักษณะเด่นตามชื่อของมันคือหลังจะโหนกและมีตัวเป็นสีชมพู แต่จริงๆ แล้วตัวของโลมาไม่ได้มีสีชมพูแต่แรกเกิด
เพราะตอนที่มันเกิดออกมามันก็มีสีเทาเหมือนกับโลมาทั่วไปนั่นแหละ ทว่าพอมันมีอายุที่เยอะขึ้นเม็ดเลือดของมันจะกระจายมาชิดผิวหนังมากยิ่งขึ้น ตัวก็เลยชมพูอย่างที่เห็น
ส่วนลักษณะร่างกายอื่นๆ ของมันอย่างครีบก็จะมีขนาดที่ยาวมากๆ บางตัวสามารถยาวได้ถึง 1 ส่วน 3 ของร่างกายเลยทีเดียว และมันจะมีช่วงอายุขัยราว 40 ถึง 50 ปี
สถานที่พวกมันอยู่อาศัยก็จะมีอยู่หลายที่ด้วยกัน แต่ที่พบเจอบ่อยที่สุดก็จะเป็นบริเวณชายฝั่งที่มีน้ำตื้น ซึ่งจะลึกไม่เกิน 20 เมตร บริเวณอินโดแปซิฟิก รวมถึงอ่าวรีพัลส์ในฮ่องกง
ในส่วนของประเทศไทยนั้นก็สามารถพบเจอโลมาสีชมพูได้ โดยเฉพาะบริเวณหาดขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ใช่แค่นั้นยังมีคนเจอโลมาสีชมพูที่ทะเลสาบในรัฐลุยเซียนาประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2015 อีกด้วย จึงไม่แน่ใจว่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน หาดขนอม
Comments